‏ Luke 7:18-35

พระเยซูกับยอห์นผู้ให้บัพติศมา

(มธ.11:2-19)

18พวกสาวกของยอห์นมาเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านั้น ยอห์นจึงเรียกศิษย์สองคนมา 19และส่งเขาไปทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ท่านคือผู้ที่จะมานั้นหรือเราจะต้องคอยผู้อื่น?”

20เมื่อคนทั้งสองมาถึงก็ทูลพระองค์ว่า “ยอห์นผู้ให้บัพติศมาส่งพวกข้าพเจ้ามาทูลถามท่านว่า ‘ท่านคือผู้ที่จะมานั้นหรือเราจะต้องคอยผู้อื่น?’”

21ในขณะนั้นพระเยซูทรงรักษาคนเจ็บคนป่วยหลายคนให้หายจากโรคและจากวิญญาณชั่ว และทรงทำให้คนตาบอดหลายคนมองเห็นได้ 22ดังนั้นพระองค์จึงตรัสกับสองคนนั้นว่า “จงกลับไปรายงานสิ่งที่ท่านได้เห็นได้ยินแก่ยอห์น คือคนตาบอดมองเห็นได้ คนง่อยเดินได้ คนโรคเรื้อน
คำภาษากรีกอาจหมายถึงโรคผิวหนังต่างๆ ไม่จำเป็นต้องหมายถึงโรคเรื้อนเท่านั้น
หายจากโรค คนหูหนวกกลับได้ยิน คนตายแล้วเป็นขึ้นมา และข่าวประเสริฐได้ประกาศแก่คนยากไร้
23คนที่ไม่สูญเสียความเชื่อไปเพราะเราก็เป็นสุข”

24เมื่อศิษย์ของยอห์นไปแล้ว พระเยซูจึงเริ่มตรัสกับประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่า “พวกท่านออกไปดูอะไรในถิ่นกันดาร? ดูต้นอ้อลู่ตามลมหรือ? 25หากไม่ใช่ ท่านออกไปดูอะไร? ดูคนนุ่งห่มผ้าเนื้อดีหรือ? ไม่ใช่เลย เพราะบรรดาผู้ที่สวมเสื้อผ้าราคาแพงและชอบฟุ้งเฟ้อย่อมอยู่ในวัง 26แต่ท่านออกไปดูอะไร? ผู้เผยพระวจนะหรือ? ใช่แล้ว เราบอกพวกท่านว่าชายผู้นี้เป็นยิ่งกว่าผู้เผยพระวจนะเสียอีก 27ยอห์นนี่แหละคือผู้ที่มีเขียนถึงไว้ว่า

“ ‘ดูเถิด เราจะส่งทูตของเรามาก่อนท่าน
เพื่อเตรียมทางไว้ให้ท่านล่วงหน้า’
มลค. 3:1

28เราบอกท่านว่าในบรรดาคนที่เกิดจากผู้หญิงไม่มีคนไหนยิ่งใหญ่กว่ายอห์น กระนั้นผู้เล็กน้อยที่สุดในอาณาจักรของพระเจ้าก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์น”

29(คนทั้งปวงแม้แต่คนเก็บภาษีเมื่อได้ยินคำตรัสของพระเยซูก็รับว่าทางของพระเจ้าถูกต้อง เพราะพวกเขาได้รับบัพติศมาจากยอห์นแล้ว 30แต่พวกฟาริสีและผู้เชี่ยวชาญในบทบัญญัติไม่ยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ได้รับบัพติศมาจากยอห์น)

31“แล้วเราจะเปรียบคนในยุคนี้กับอะไรดี? พวกเขาเป็นเช่นไร? 32เขาเป็นเหมือนเด็กๆ ที่นั่งอยู่กลางตลาดและร้องบอกกันและกันว่า

“ ‘เราเป่าปี่ให้
พวกเธอก็ไม่เต้นรำ
เราร้องเพลงไว้อาลัย
พวกเธอก็ไม่ร้องไห้’
33เพราะยอห์นผู้ให้บัพติศมาไม่กินขนมปังและไม่ดื่มเหล้าองุ่น พวกท่านก็กล่าวว่า ‘เขามีผีสิง’ 34ส่วนบุตรมนุษย์มาทั้งกินและดื่มและพวกท่านก็กล่าวว่า ‘นี่คือคนตะกละและขี้เมา เป็นมิตรของคนเก็บภาษีและ “คนบาป” ’ 35แต่พระปัญญาก็ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้องโดยคนทั้งปวงที่ปฏิบัติตามพระปัญญานั้น
หรือลูกหลานทั้งปวงแห่งพระปัญญานั้น


Copyright information for ThaTNCV