‏ 2 Kings 19:20-37

อิสยาห์พยากรณ์ว่าเซนนาเคอริบจะล่มจม

(2พศด.32:20-21; อสย.37:21-38)

20จากนั้นอิสยาห์บุตรอาโมศจึงให้นำความมาทูลเฮเซคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าเรื่องกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียแล้ว 21องค์พระผู้เป็นเจ้าจึงตรัสถึงเขาดังนี้ว่า

“ ‘ธิดาพรหมจารีแห่งศิโยน
คือ ชาวเยรูซาเล็ม

ดูหมิ่นเจ้าและเยาะเย้ยเจ้า
ธิดาแห่งเยรูซาเล็ม
คือ ชาวเยรูซาเล็ม

ส่ายหน้าเมื่อเจ้าเตลิดหนี
22ใครนะที่เจ้าเย้ยหยันและลบหลู่?
เจ้าขึ้นเสียง
และทำตาหยิ่งยโสใส่ใคร?
ก็องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลน่ะสิ!
23เจ้าใช้ผู้สื่อสารของเจ้า
มากล่าววาจาลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้า
และเจ้าได้กล่าวว่า
“ด้วยรถม้าศึกมากมายของข้า
ข้าได้ขึ้นไปถึงบรรดายอดเขาสูง
สู่สุดยอดแห่งเลบานอน
ข้าได้โค่นบรรดาสนซีดาร์ที่สูงที่สุด
และต้นสนที่ดีเยี่ยมที่สุด
ข้าได้เข้าไปถึงส่วนลึกที่สุด
คือป่าอันอุดมที่สุด
24ข้าได้ขุดบ่อน้ำหลายบ่อในต่างแดน
และดื่มน้ำที่นั่น
ด้วยส้นเท้าของข้า
ลำธารทั้งหลายของอียิปต์ก็แห้งเหือด”

25“ ‘เจ้าไม่เคยได้ยินเลยหรือ?
เราได้บัญชาไว้ตั้งนานมาแล้ว
เราได้วางแผนไว้ตั้งแต่อดีต
และบัดนี้เราก็ทำให้เป็นไปตามนั้น
คือให้เจ้าพิชิตเมืองป้อมปราการทั้งหลาย
ทำให้กลายเป็นกองหิน
26ชาวเมืองเหล่านั้นหมดอำนาจ
ถดถอยและอับอาย
พวกเขาเหมือนพืชในทุ่งนา
เหมือนหน่ออ่อนเขียวสด
เหมือนหญ้างอกขึ้นบนหลังคา
ถูกแดดแผดเผาก่อนจะโตขึ้นมา

27“ ‘แต่เรารู้จักเจ้าดี
ไม่ว่าความเป็นมาหรือความเป็นไปของเจ้า
และรู้ที่เจ้าฉุนเฉียวใส่เรา
28เพราะเจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา
และวาจาโอหังของเจ้าเข้าหูเรา
เราจะเอาเบ็ดเกี่ยวจมูกของเจ้า
และเอาบังเหียนใส่ปากของเจ้า
และเราจะทำให้เจ้าหันกลับไป
ตามเส้นทางที่เจ้ามา’
29“เฮเซคียาห์เอ๋ย นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่เจ้า คือ

“ปีนี้เจ้าจะกินพืชพันธุ์ที่งอกขึ้นเอง
และปีที่สองก็จะกินพืชพันธุ์ที่ออกผลตามมา
แต่ในปีที่สาม จงหว่านและเก็บเกี่ยว
จงทำสวนองุ่นและกินผลของมัน
30ประชากรยูดาห์ที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือนั้น
จะหยั่งรากและเกิดผลอีกครั้งหนึ่ง
31เพราะจะมีคนที่เหลือรอดอยู่หยิบมือหนึ่งมาจากเยรูซาเล็ม
และผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งจะมาจากภูเขาศิโยน
ความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะกระทำให้สำเร็จตามนี้

32“ฉะนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสถึงกษัตริย์อัสซีเรียดังนี้ว่า

“เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้
หรือยิงธนูที่นี่
เขาจะไม่มาถือโล่อยู่หน้าเมือง
หรือสร้างเชิงเทินล้อมโจมตีมัน
33เขามาทางไหนก็จะกลับไปทางนั้น
เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองนี้
องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
34เราจะปกป้องและช่วยเมืองนี้ไว้
เพื่อเห็นแก่เราเองและเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเรา”
35ในคืนนั้นเองทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ออกไปประหารคนในค่ายอัสซีเรีย 185,000 คน วันรุ่งขึ้นเมื่อผู้คนตื่นขึ้นก็เห็นซากศพเกลื่อนกลาด! 36กษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสซีเรียจึงทรงให้รื้อค่าย และถอนทัพกลับไปยังเมืองนีนะเวห์และประทับอยู่ที่นั่น

37วันหนึ่งขณะที่ทรงนมัสการอยู่ในวิหารของพระนิสรอคของพระองค์ อัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์โอรสของพระองค์เองได้ปลงพระชนม์พระองค์ด้วยดาบ แล้วหนีไปยังดินแดนอารารัต และเอสารฮัดโดนโอรสอีกองค์หนึ่งของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน

Copyright information for ThaTNCV